กฎหมายจราจรใกล้ตัวที่ผู้ขับรถควรรู้

การขับขี่รถยนต์ไม่ใช่แค่การเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B แต่ยังมีความรับผิดชอบที่ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อความปลอดภัยและเป็นระเบียบของสังคม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงจากการกระทำที่อาจเป็นอันตราย ต่อไปนี้คือลำดับกฎหมายใกล้ตัวที่ผู้ขับรถทุกคนควรรู้และปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

1. การใช้เข็มขัดนิรภัย

ตามกฎหมายของประเทศไทยผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถทุกคนต้องสวมใส่เข็มขัดนิรภัย ขณะขับขี่หรือโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งด้านหน้า หรือด้านหลังของรถ หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษปรับตามที่กฎหมายกำหนด การสวมเข็มขัดนิรภัยไม่เพียงแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้อย่างมาก
: หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ ไม่เกิน 2,000 บาท

2. การขับขี่ขณะเมาสุรา

การขับขี่ขณะเมาสุราถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายที่ร้ายแรง เพราะไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้ขับขี่เอง แต่ยังเป็นอันตรายต่อผู้ร่วมทางอีกด้วย หากถูกตรวจพบว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จะมีโทษทั้งปรับและจำคุก รวมถึงการสูญเสียใบขับขี่เป็นระยะเวลา
:หากฝ่าฝืนจะมีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000 – 20,000 บาท หรือ ทั้งจำและปรับ (โทษครั้งแรก)
ทำผิดซ้ำภายใน 2 ปี จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับ 50,000 – 100,000 บาท

นอกจากนี้อาจจะถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ด้วย

3. การจอดรถในที่ห้ามจอด

การจอดรถในที่ห้ามจอด เช่น บนทางเท้า หรือในพื้นที่ที่มีป้ายห้ามจอด จะมีโทษปรับและอาจทำให้รถถูกยกรถจากที่จอดได้ด้วย การจอดรถผิดกฎหมายไม่เพียงแต่ทำให้การจราจรติดขัด แต่ยังสร้างความไม่สะดวกแก่ผู้ใช้ถนนคนอื่น

:หากฝ่าฝืนจอดรถในเขตที่มีเครื่องหมายห้ามจอดจะมีโทษปรับ 500 บาท

4. ความเร็วที่จำกัด

การขับรถในทางที่มีป้ายจำกัดความเร็ว ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะการขับรถเกินความเร็วที่กำหนดถือเป็นการละเมิดกฎหมายและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ การฝ่าฝืนอาจทำให้ถูกปรับและได้รับคะแนนสะสมในการละเมิดข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
:หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับสูงสุด 4,000 บาท

5. การให้ทางแก่ผู้ข้ามถนน

ตามกฎหมาย ผู้ขับขี่ต้องให้ทางแก่ผู้ที่กำลังข้ามถนนที่ทางม้าลาย ผู้ขับขี่ที่ไม่ให้ทางแก่คนข้ามถนนจะถูกปรับและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งอาจทำให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้
:หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับสูงสุด 4,000 บาท

6. การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่

การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถเป็นการกระทำที่เสี่ยงอันตราย เพราะทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ผู้ขับขี่ไม่ควรใช้โทรศัพท์ขณะขับรถโดยเด็ดขาด การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถโดยไม่ใช้หูฟังหรือระบบขับขี่มือเดียวเป็นการละเมิดกฎหมายและอาจถูกปรับได้
:หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับสูงสุด 4,000 บาท

7. การปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจร

สัญญาณไฟจราจรมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการจราจร และช่วยให้การเดินทางของทุกคนเป็นระเบียบ หากผู้ขับขี่ไม่ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจร เช่น ฝ่าไฟแดง จะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และทำให้ผู้ขับขี่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย
:หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 4,000 บาท

8. การไม่ให้ความช่วยเหลือในกรณีอุบัติเหตุ

หากผู้ขับขี่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุและไม่ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุบัติเหตุ จะมีโทษทั้งทางอาญาและทางแพ่ง การให้ความช่วยเหลือในกรณีเช่นนี้เป็นหน้าที่ที่ไม่ควรมองข้าม และควรดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม

การขับขี่รถยนต์ไม่ใช่เพียงแค่การพึ่งพาความสะดวกสบายในการเดินทาง แต่ยังเป็นการรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของตัวเองและผู้อื่น การรู้และปฏิบัติตามกฎหมายการขับขี่จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุและข้อพิพาททางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต