ประเภท 1 : คุ้มครอง

• - ความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกัน
• - สูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์
• - ชีวิต ร่างกาย อนามัยของบุคคลภายนอก
• - ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

ประเภท 2 : คุ้มครอง

• - สูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์
• - ชีวิต ร่างกาย อนามัยของบุคคลภายนอก
• - ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

ประเภท 2+ : คุ้มครอง

• - สูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์
• - ความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกัน (รถชนรถ)*
• - ชีวิต ร่างกาย อนามัยของบุคคลภายนอก
• - ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก * ชนกับยานพาหนะทางบก จึงจะได้รับความคุ้มครอง

ประเภท 3 : คุ้มครอง

• - ชีวิต ร่างกาย อนามัยของบุคคลภายนอก
• - ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

ประเภท 3+ : คุ้มครอง

• - ความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกัน(รถชนรถ)*
• - ชีวิต ร่างกาย อนามัยของบุคคลภายนอก
• - ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
• * ชนกับยานพาหนะทางบก จึงจะได้รับความคุ้มครอง

1 ส่วนลด การระบุชื่อผู้ขับขี่รถ
ระบุได้เฉพาะทำประกันภัยแบบการใช้รถส่วนบุคคล ภาคสมัครใจประเภท 1 เท่านั้น
ชื่อผู้ขับขี่รถยนต์ ระบุได้ไม่เกิน 2 คน คำนวณส่วนลดค่าเบี้ยจากผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยสุด

• อายุ 18 - 24 ปี ลด 5 %
• อายุ 25 - 35 ปี ลด 10 %
• อายุ 36 - 50 ปี ลด 20 %
• อายุ 50 ปี ขึ้นไป ลด 15 %

กรณีรถยนต์เกิดอุบัติเหตุเป็นฝ่ายผิดและผู้ขับขี่รถยนต์ไม่ใช่บุคคลที่ระบุชื่อเอาไว้ในกรมธรรม์ ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกทุกครั้ง ดังนี้

• 2,000 บาท สำหรับทรัพย์สินบุคคลภายนอก
• 6,000 บาท สำหรับรถยนต์คันเอาประกัน

2 ส่วนลด การระบุค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) คือ การที่ผู้เอาประกันเลือกที่จะรับความเสี่ยงของการเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุในแต่ละครั้งไว้เอง รับผิดตามจำนวนที่ตกลงระบุไว้ในกรมธรรม์

• ข้อดี : ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ลดลง
• ข้อเสีย : หากรถยนต์เกิดอุบัติเหตุเป็นฝ่ายผิด จะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกตามที่ระบุไว้ทุกครั้ง

3 ส่วนลดติดตั้งกล้องหน้ารถยนต์ จะได้รับส่วนลดเบี้ย 5 – 10 % ( ค่าเบี้ยประกันภัยที่กำหนดไว้ในเว็บไซต์นี้ จะให้ส่วนลดการติดตั้งกล้องไว้แล้ว )

4 ส่วนลดกลุ่ม หากทำประกันรถยนต์พร้อมกัน 3 คันขึ้นไป จะมีส่วนลดกลุ่มเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งเงื่อนไขขึ้นอยู่แต่ละบริษัทประกันภัยกำหนด

5 ส่วนลดประวัติดี

• 20% ของเบี้ยประกันภัยต่ออายุ สำหรับรถยนต์ที่ไม่มีเคลมปีแรก
• 30% ของเบี้ยประกันภัยต่ออายุ สำหรับรถยนต์ที่ไม่มีเคลม 2 ปีติดต่อกัน
• 40% ของเบี้ยประกันภัยต่ออายุ สำหรับรถยนต์ที่ไม่มีเคลม 3 ปีติดต่อกัน
• 50% ของเบี้ยประกันภัยต่ออายุ สำหรับรถยนต์ที่ไม่มีเคลม 4 ปีติดต่อกันหรือมากกว่า
• เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทประกันภัยกำหนด

1. ค่า Excess หมายถึง จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเอง จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นและผิดเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เช่น รถยนต์เสียหายไม่ทราบคู่กรณี หรือไม่สามารถระบุตัวผู้กระทำผิดได้

2. ค่า Deductible เป็นค่าเสียหายส่วนแรก ที่ผู้ซื้อประกันตกลงสมัครใจจ่าย เพื่อให้เบี้ยประกันลดลงจากราคาปกติ และต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกทุกครั้งที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุเป็นฝ่ายผิดหรือไม่สามารถหาผู้ทำละเมิดได้ หากเกิดอุบัติเหตุเป็นฝ่ายถูกก็ไม่ต้องจ่ายส่วนแรก

การใช้รถยนต์ส่วนบุคคล คือ การไม่นำรถยนต์ไปใช้รถรับจ้างหรือให้เช่า ไม่ว่าจะประจำหรือแบบเป็นช่วงเวลา เพราะหากรถยนต์ประสบอุบัติเหตุในขณะที่ใช้รับจ้าง บริษัทประกันจะปฏิเสธความรับผิดชอบความเสียหาย

การใช้รถยนต์เชิงพาณิชย์ คือ นำรถยนต์ไปใช้เพื่อทางการค้า เช่น การขนส่งสินค้า การขนส่งวัสดุ วัตถุดิบต่างๆ ใช้เพื่องานรับจ้าง ให้ผู้อื่นเช่า ใช้รับส่งผู้โดยสาร และรับจ้างอื่น ๆ

1 กรมธรรม์ให้คุ้มครองหรือข้อยกเว้นมีอะไร

2 ทุนประกันของรถยนต์ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงภัยของผู้ใช้รถ เช่น มีผู้ใช้รถหลายคนไม่ควรทำประกันแบบระบุชื่อ หรือรถยนต์ใช้ขับทางไกลหรือผู้ขับรถยังขับรถไม่เก่ง ควรทำประกันแบบประเภท 1. และเลือกบริษัทประกันที่ให้ทุนประกันสูงสุด หรือเป็นรถใหม่ควรทำประกันเลือกการซ่อมห้าง จะดีกว่า มั่นใจในเรื่องมาตรฐานการซ่อมได้มากกว่า ซึ่งค่าเบี้ยประกันอาจแตกต่างกันแต่เมื่อมีการซ่อมก็จะคุ้มค่าและดีกว่ามาก

3 ความคุ้มครองอื่น เช่น ค่ารักษาพยาบาล ความคุ้มครองบุคคลภายนอก ครอบคลุมความเสี่ยงภัยทั้งหมดหรือไม่

4 ประกันภัยที่ซื้อ มีระบุต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกหรือไม่ หรือทำแบบระบุชื่อผู้ขับขี่รถหรือไม่ ผู้ขับขี่รถในขณะเกิดอุบัติเหตุตรงกับที่ระบุไว้หรือไม่

5 รถยนต์ติดตั้งอุปกรณ์แต่งมีการแจ้งความคุ้มครองเพิ่มหรือไม่ เพราะหากไม่แจ้ง บริษัทประกันมีสิทธิ์ปฏิเสธความรับผิดชอบต่ออุปกรณ์ตกแต่งได้

• หมายเหตุ : เงื่อนไขความคุ้มครองและข้อยกเว้นของกรมธรรม์ทั้งหมด จะระบุไว้ที่สัญญากรมธรรม์ประกัน ดังนั้นจึงขอให้อ่านและตรวจดูข้อความในกรมธรรม์ทุกครั้ง หากไม่ตรงตามที่ท่านแจ้งไว้ ขอให้ติดต่อเจ้าหน้าที่บริษัททันที

1 สำเนาทะเบียนรถ

2 สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถ

3 ทำประกันรถประกันประเภท 1. หรือ 2+ 3+ บริษัทประกันต้องขอตรวจสอบภาพถ่ายรถยนต์ก่อนให้ความคุ้มครองรถ

เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ให้แจ้งเหตุกับบริษัทผู้รับประกันทันที โดยแจ้งดังนี้

• 1. ทะเบียนรถ เลขกรมธรรม์ หรือ ชื่อ-นามสกุล ผู้เอาประกันและชื่อผู้ขับขี่รถประกัน
• 2. เบอร์โทรศัพท์ผู้ขับขี่รถที่ติดต่อได้ และเบอร์ผู้ติดต่อฉุกเฉิน

แจ้งข้อมูลอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

• 1. ลักษณะการเกิดอุบัติเหตุ
• 2. วัน เดือน ปี เวลา สถานที่ ที่เกิดอุบัติเหตุ
• 3. ทรัพย์สินที่เสียหายมีอะไรบ้าง
• 4. มีบุคคลได้รับบาดเจ็บหรือไม่
• 5. มีคู่กรณีหรือไม่ ยี่ห้อ สี เลขทะเบียนอะไรหรือเป็นวัตถุใด
• 6. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาในที่เกิดเหตุหรือไม่
• 7. รถยนต์ขับเคลื่อนได้หรือไม่ หรือต้องการนัดหมายให้บริษัทประกันเข้ามาดูแล หรือเป็นเคลมออนไลน์

สำหรับลูกค้าที่ทำประกันที่เซฟดี ท่านสามารถตรวจสอบกรมธรรม์ของท่านได้ตลอดเวลา โดยเข้าไปที่หน้า "ตรวจสอบข้อมูลประกัน"

1. สำเนาทะเบียนรถ

2. สำเนาใบขับขี่

3. สำเนากรมธรรม์ประกันภัย (สามารถดูและโหลดได้ตลอดเวลาที่หัวข้อ "ตรวจสอบข้อมูลประกัน"

4. หลักฐานอื่น ๆ เช่น หากนำรถยนต์ไปซ่อมเอง ต้องมีใบคุมราคา ภาพถ่ายการจัดซ่อมรถ รวมถึงการนำรถยนต์ไปตรวจสภาพหลังซ่อม หรือภาพถ่ายทรัพย์สินที่เสียหาย หรือบันทึกประจำวัน (ถ้ามี)

5. หากไม่ได้ดำเนินการด้วยตัวเอง ก็ต้องมีเอกสารการรับมอบอำนาจ

6. หน้าสมุดบัญชีธนาคาร ในกรณีบริษัทประกันโอนเงินค่าสินไหม

ผู้เอาประกัน เลือกชำระค่าเบี้ยประกันได้ 2 ช่องทาง

⦁ ช่องทางที่ 1. จ่ายผ่านบัตรเดบิต/เครดิต โดยกรอกรายละเอียดในแบบการชำระเบี้ยผ่านบัตรเครดิต ซึ่งสามารถเลือกผ่อนชำระได้ตามระบบที่เปิดให้ชำระสูงสูดไม่เกิน 10 เดือน

⦁ ช่องทางที่ 2. จ่ายเงินสด/เงินโอน เลือกชำระแบบจ่ายงวดเดียวจะได้ส่วนลดสูงสุด หรือเลือกผ่อนชำระเงินสดได้ ชำระเข้าชื่อบัญชี บริษัท เซฟดี โบรกเกอร์ จำกัด ธ.กรุงเทพ เลขที่บัญชี 580-7-05733-5 เมื่อชำระค่าเบี้ยประกันภัยแล้ว ส่งหลักฐานการโอนมาที่ไลน์ ID: @savedee2 หรือ E-Mail: [email protected] แจ้งให้ทราบถึงการจ่ายเงินของท่าน

• ทุนประกันรถยนต์ คือ ค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทประกันจะจ่ายให้กับผู้เอาประกัน กรณีเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ เช่น อุบัติเหตุรถเสียหาย รถไฟไหม้ รถสูญหาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประเภทประกันภัยรถยนต์ที่ทำประกันไว้

• ทุนประกันรถ กำหนดจาก ยี่ห้อ รุ่นหลัก - รุ่นย่อย และปี ของรถในปีนั้นๆ โดยจะกำหนดไว้ที่ 80 % ของมูลค่ารถยนต์ ณ ปัจจุบัน ทุนประกันรถจะลดลงทุกปี ๆ ละ 10-15 % หรือตามราคากลางของรถยนต์ในแต่ละปี

• สำหรับรถยนต์ ที่ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ เช่น ล้อแมกซ์ เครื่องเสียง หลังคากระบะ ถังแก๊ส ฯลฯ ต้องแจ้งบริษัทประกันก่อนทำประกันหรือเมื่อมีการติดตั้งทันที เพื่อเพิ่มความคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งดังกล่าว หากไม่แจ้ง บริษัทประกันมีสิทธิ์ปฏิเสธความคุ้มครองต่ออุปกรณ์ดังกล่าวที่เสียหาย

บริษัทเซฟดี โบรกเกอร์ จำกัด

คือ บริษัทนายหน้าประกันวินาศภัย ประเภทนิติบุคคล เลขที่ใบอนุญาตเลขที่ ว00029/2559 รับจัดทำประกันวินาศภัยทุกประเภท โดยสามารถดูข้อมูลของบริษัทได้ที่หัวข้อ "เกี่ยวกับเรา"

• การซื้อประกันภัยที่ Savedee จึงมั่นใจได้ว่า Savedee มีความมั่นคงและมีความพร้อมในการให้บริการท่าน

• หัวข้อ "รู้ก่อนซื้อประกัน" เพื่อให้ความรู้กับผู้ซื้อประกันได้อ่านข้อมูลที่มีประโยชน์และจำเป็นก่อนการตัดสินใจซื้อประกัน เพื่อเลือกซื้อแผนประกันภัยที่ตรงกับความเสี่ยงภัย รวมถึงขั้นตอนการปฎิบัติในกรณีเกิดอุบัติเหตุสำหรับการเคลมสินไหมจากบริษัทประกัน

เป็นแผนประกันความคุ้มครองที่แสดงสิทธิประโยชน์ ของแต่ละบริษัทประกันวินาศภัยนำมาแสดงให้ท่านได้ดูและเปรียบเทียบ โดยเงื่อนไขความคุ้มครองทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ท่านกรอกบันทึกลงไป ข้อมูลที่แสดงดังกล่าวเป็นข้อมูลที่นำมาแสดงเบื้องต้นให้ท่านได้ทราบ ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับมูลค่าทรัพย์สินหรือวัตถุที่เอาประกันภัยหรือข้อมูลที่แท้จริง ดังนั้นจึงขอให้ท่านโปรดกรอกข้อมูลด้วยความเป็นจริง บริษัทประกันวินาศภัยอาจขอปรับปรุงแก้ไขข้อมูลได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องแจ้งท่านให้ทราบล่วงหน้า

เราพยายามรวบรวมแผนความคุ้มครองจากบริษัทประกันวินาศภัยชั้นนำให้ท่านได้พิจารณาและเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ที่ดีแบบละเอียดมากที่สุด อาจมีบางกรณีที่ไม่พบแผนประกันที่ตรงกับท่าน เราจึงขอให้ท่านได้โปรดติดต่อเราทางไลน์ เพื่อส่งข้อมุลให้เรา เพื่อที่เราจะได้นำเสนอแผนประกันที่ตรงกับท่าน

ท่านสามารถคิดต่อเพื่อขอยกเลิกสัญญากรมธรรม์ประกันวินาศภัยได้ตลอดในเวลาทำการ โดยท่านเขียนความประสงค์ยกเลิกลงในเอกสารสำเนาบัตรประชาชน และส่งมาที่เรา เพื่อดำเนินการตามความประสงค์ของท่าน หากเป็นการรับกรมธรรม์ฉบับจริงไป ต้องส่งเอกสารกรมธรรม์คืนด้วย แต่หากเป็นการรับกรมธรรม์อิเล็คทรอนิกส์หรือรับออนไลน์ ก็ไม่ต้องนำส่งกรมธรรม์

1. จ่ายเบี้ยประกันได้หลายช่องทาง

• • ชำระเงินสดได้รับส่วนลดพิเศษ
• • ชำระผ่อนเงินสดได้
• • ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตได้นานสุด 10 เดือน โดยไม่มีดอกเบี้ย (ชำระตามยอดในหน้าตารางกรมธรรม์ )

2. เปรียบเทียบแผนความคุ้มครองละเอียด ทำให้ผู้ซื้อประกันได้รับประโยชน์ สามารถเลือกแผนประกันที่ตรงกับความเสี่ยงภัยของตนเอง ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยเกินความจำเป็น

3. บริษัท เซฟดี โบรกเกอร์ จำกัด

• • หน่วยงานภาครัฐ คือสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกันภัย (คปภ.) รับรอง
• • บริษัทจดทะเบียนพาณิชย์ ตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 ชนิดแห่งพาณิชยกิจ "ตัวแทนและนายหน้าประกันวินาศภัยทางอินเตอร์" มีสถานที่ตั้ง ตรวจสอบได้ ผู้ซื้อประกันจึงมั่นใจได้ในเรื่องความมั่นคง
• ตรวจสอบหนังสือรับรองได้ที่หัวข้อ "หน่วยงานที่ให้การรับรอง"

4. เราประกอบกิจการ โรงเรียนสอนขับรถ เซฟดี ไดรฟ์เวอร์ โดยกรมการขนส่งทางบกและกระทรวงศึกษาธิการให้การรับรอง ผู้เรียนสามารถเรียนขับรถ อบรมและสอบได้ที่โรงเรียน รวมถึงอบรมต่อใบขับขี่ที่ได้ที่โรงเรียน เรามีความพร้อมให้คำปรึกษาหรือรองรับลูกค้าได้แบบครบวงจร

ค่าที่แสดงในเงื่อนไข ไม่ทราบรุ่นรถ / cc. เป็นการนำค่าทุนประกันสูงสุดของรถรุ่นนั้น ๆ มาแสดงให้ผู้ที่สอบถามได้ทราบ การกำหนดทุนประกันรถของผู้เอาประกันภัยที่แท้จริง จะต้องกำหนดจากรถยนต์ ยี่ห้อ ปีรถ และรุ่นดังกล่าวที่แท้จริงเท่านั้น ตามเงื่อนไขการกำหนดทุนประกัน จะกำหนดไว้ที่ ประมาณ 80% ของราคารถ ณ วันที่ทำประกันเป็นสำคัญ

การปฏิเสธความคุ้มครองโดยทั่วไป เช่น เมาแล้วขับ , ใช้รถแข่งขับความเร็ว , ไม่มีใบอนุญาตขับขี่( กรณีที่เป็นฝ่ายประมาท) , นำรถยนต์ไปใช้ในทางผิดกฎหมาย , ขับรถออกนอกพื้นที่ประเทศไทย , ใช้งานรถยนต์นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เช่น นำรถส่วนบุคคลไปใช้รับจ้าง หรือใช้งานเชิงพาณิชย์ , กรณีเกิดสงคราม ปรมาณู หรือกัมมันตภาพรังสีของเชื้อเพลิงปรมาณู , และอื่นตามแต่เงื่อนไขกรมธรรม์กำหนดไว้ เงื่อนไขข้อยกเว้นความคุ้มครองโดยละเอียดจะระบุไว้ที่สัญญากรมธรรม์ระกันภัย ข้อให้ท่านโปรดอ่านเพื่อทำความเข้าใจก่อนเป็นสำคัญ

ให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอก และความรับผิดต่อการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของผู้โดยสารในรถคันเอาประกันภัย ทั้งนี้จำนวนเงินจํากัดความรับผิดนี้ถือเป็นส่วนเกินจากความคุ้มครองตามกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พรบ.)

บุคคลทั่วไป ที่มิใช่ คู่สมรส บิดา มารดา บุตร ของผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่

ทรัพย์สินที่ไม่ใช่ของผู้เอาประกันภัย ผู้ขับขี่ คู่สมรส บิดามารดา บุตรของผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่นั้นเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้เก็บรักษา ควบคุม หรือครอบครอง

บริษัทจะจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้เอาประกันภัยในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเกิดความสูญเสียทางร่างกาย (บาดเจ็บ สูญเสียอวัยวะ พิการ เสียชีวิต) จากอุบัติเหตุเท่านั้น หากเกิดจากการเจ็บป่วยเป็นโรค จะไม่ได้รับความคุ้มครอง โดยเงื่อนไขความคุ้มครอง เป็นไปตามที่กรมธรรม์กำหนด

ให้ความคุ้มครองตัวผู้ขับขี่ให้มีอิสระภาพจากการถูกควบคุมตัวในคดีอาญาของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือ ศาล ชั่วระยะเวลาหนึ่งๆ ระหว่างการต่อสู้คดีความอันสืบเนื่องมาจากอุบัติเหตุรถยนต์ที่เกิดขึ้น

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ (ฝ่ายถูก)

ตามที่ คปภ. กำหนด ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถที่เรียกร้องได้จากบริษัทคู่กรณีฝ่ายผิด แบ่งออกเป็น 3 ประเภท

• 1 รถยนต์ส่วนบุคคลแบบไม่เกิน 7 ที่นั่ง ไม่ต่ำกว่า 500 บาท / วัน
• 2 รถยนต์รับจ้างสาธารณะแบบไม่เกิน 7 ที่นั่ง ไม่ต่ำกว่า 700 บาท / วัน
• 3 รถยนต์ทุกประเภทแบบเกิน 7 ที่นั่ง ไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท / วัน

วิธีเรียกร้องค่าขาดประโยชน์

• 1 ติดต่อบริษัทคู่กรณี (ฝ่ายผิด)
• 2 แจ้งความประสงค์เรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ในช่วงเวลาที่รถของคุณกำลังซ่อมอยู่

เอกสารที่ต้องเตรียมมีดังนี้

• 1 ใบเสนอรายการด้านความเสียหายของรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุ
• 2 ใบรับรองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สิน (ใบเคลม)
• 3 สำเนาทะเบียนรถยนต์
• 4 สำเนาตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
• 5 สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
• 6 หนังสือส่งมอบรถเมื่อเสร็จ / ใบรับรถ
• 7 หนังสือเรียกร้องเกี่ยวกับสินไหม ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ
• 8 สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร (กรณีโอนเงิน)

เอกสารที่ส่งให้เจ้าหน้าที่บริษัทฝ่ายคู่กรณี ให้ผู้รับลงชื่อรับเอกสารหรือเราทำสำเนาเก็บไว้ ใช้เวลาราว 7 วัน ก็จะได้ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

ไม่ได้พกใบขับขี่ หรือ ใบขับขี่หมดอายุในวันที่เกิดอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์ ให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ผู้ขับขี่ไม่เคยทำใบขับขี่ หรือเคยทำแต่ถูกตัดสิทธิ หรือถูกระงับพักใช้ จะไม่ให้ความคุ้มครองต่อรถที่เอาประกัน ส่วนบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหาย ได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์

สำหรับรถบางรุ่นจะมีการกำหนดเบี้ยประกันภัยขั้นต่ำไว้ ทำให้ไม่สามารถลดเบี้ยประกันภัยได้ต่ำกว่าราคาขั้นต่ำที่กำหนดไว้ หรือถ้ากรมธรรม์เป็นการประกันแบบ Package เบี้ยประกันจะเท่ากันทุกปี

เมื่อโอนรถ สิทธิ์ความเป็นเจ้าของจะโอนจากเจ้าของรถคนเดิม เป็นสิทธิ์ของเจ้าของรถคนใหม่ ทำให้กลายเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ลูกค้าต้องแจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบเพื่อสลักหลังเปลี่ยนเจ้าของคนใหม่เข้ามาเป็นผู้เอาประกันภัยแทน ประกันภัยรถยนต์จึงคุ้มครองตามเงื่อนไขสัญญากรมธรรม์ใหม่ ซึ่งอาจมีความแตกต่างจากกรมธรรม์ฉบับเดิม เมื่อมีการโอนรถจึงควรปฏิบัติให้ถูกต้อง

การทำประกันภัยทุกครั้ง ผู้ซื้อประกันจะได้รับหนังสือหรือเลขที่คุ้มครองชั่วคราว ระหว่างที่รอกรมธรรม์ฉบับจริง หากไม่ได้ให้ติดต่อสอบถามมาที่ แอดไลน์ในหน้าเว็บไซต์ทันที ส่วนใบเตือนต่ออายุความคุ้มครองกรมธรรม์ จะมีระบบส่งแจ้งเตือนตามเบอร์มือถือที่ท่านให้ไว้ล่วงหน้าประมาณ 15-30 วัน ทาง SMS หากมีการเปลี่ยนเบอร์มือถือโปรดติดต่อบริษัททุกครั้ง

รถยนต์มีแผลเก่าก่อนทำประกัน กรมธรรม์จะไม่คุ้มครองแผลเก่านั้น ผู้เอาประกันจะต้องซ่อมให้เรียบร้อยก่อนทุกครั้ง

ตามกฎหมายเอกสารใบเคลมจะมีอายุความ 2 ปี แต่เราควรรีบนำรถเข้าจัดซ่อมที่ศูนย์บริการหรืออู่บริการภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่เกิดอุบัติเหตุ

ยางระเบิด ฉีกขาดเอง ไม่สามารถเคลมได้ เนื่องจากไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ กรมธรรม์ไม่คุ้มครอง หากยางเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุ กรมธรรม์ให้ความคุ้มครอง เช่นรถชนแล้วยางแตก ขับรถตกหลุมบนถนน ทำให้ยางฉีกขาด ยางถูกโจรกรรม แต่เนื่องจากยางรถยนต์เป็นชิ้นส่วนที่มีการสึกหรอหรือเสื่อมสภาพจากการใช้งาน ดังนั้นการชดใช้จะมีการพิจารณาค่าเสื่อมสภาพของยางประกอบด้วย

ความคุ้มครองของประกันภัยที่ท่านซื้อจะเกิดขึ้นต่อเมื่อ

• 1. บริษัทประกันได้พิจารณาตรวจสอบข้อมูลเอกสารและยืนยันรับประกัน
• 2. ได้รับการชำระค่าเบี้ยประกันภัย
• 3. ท่านจะได้รับเลขคุ้มครอง หรือสัญญาความคุ้มครองก่อนชั่วคราวก่อนรับกรมธรรม์ฉบับจริงทุกครั้ง

จะต้องแจ้งให้บริษัทรับทราบทุกครั้งทั้งก่อนหรือระหว่างที่ทำประกันไว้ หากรถยนต์มีการติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติม เช่น เครื่องเสียง ล้อแม็กซ์ ฟิล์ม คอกกระบะ หรืออื่นๆ โดยส่งรูปถ่าย พร้อมรายละเอียด เช่น ใบเสร็จค่าติดตั้ง มาที่บริษัท หรือติดต่อผ่านนายหน้าหรือตัวแทนที่ท่านทำประกันไว้ หากไม่แจ้งบริษัทประกันมีสิทธิ์ปฏิเสธความรับผิดชอบต่ออุปกรณ์ดังกล่าวได้ในกรณีที่เกิดความเสียหาย โดยหากอุปกรณ์ตกแต่งมีมูลค่าสูงบริษัท อาจปรับเพิ่มทุนประกัน โดยเสียค่าเบี้ยเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย

เบี้ยประกันการซ่อมอู่ กับการซ่อมห้างฯ มีอัตราค่าเบี้ยที่ตากต่างกัน หากลูกค้าซื้อเบี้ยประกันแบบซ่อมอู่จะไม่สามารถเข้าซ่อมห้าง ฯได้ หากเข้าซ่อมห้าง ฯ ลูกค้าจะต้องรับผิดชอบส่วนต่างค่าซ่อมนั้นเอง

• 1. จดทะเบียนรถ ชื่อ ที่อยู่ ของคู่กรณี
• 2. จดชื่อ ที่อยู่ ของพยานในที่เกิดเหตุ (ถ้ามี)
• 3. หากคู่กรณียอมรับผิด ควรให้คู่กรณีทำบันทึกยอมรับผิดในเอกสารชนแล้วแยก แล้วแยกเข้าข้างทาง รอเจ้าหน้าที่สำรวจภัย
• 4. หากคู่กรณีไม่ยอมรับผิด ไม่ควรแยกจากจุดเกิดเหตุ ควรรอเจ้าหน้าที่สำรวจภัยหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำแผนที่เกิดเหตุ
• 5. ไม่รับข้อเสนอชดใช้ใด ๆ จากคู่กรณี

1. หากคุณยอมรับผิด สามารถนำรถเข้าข้างทาง เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร

2. หากรถยนต์เสียหายไม่มาก และได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่บริษัทประกัน ท่านสามารถใช้เอกสาร ชนแล้วแยกได้ หรือรอเจ้าหน้าที่ประกันมาถึง แต่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ประกัน

1. ไม่ควรนำรถออกจากจุดเกิดเหตุ (นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้สั่ง) ควรถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน

2. จดทะเบียนรถ ชื่อ ที่อยู่ ของคู่กรณีหรือถ่ายภาพไว้

3. จดชื่อ ที่อยู่ ของพยานในที่เกิดเหตุ (ถ้ามี)

ค่าเสียหายส่วนแรกมี 2 แบบ คือ

1. ค่าเสียหายส่วนแรกที่ระบุไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์ (Deductible)

เป็นการตกลงยินยอมจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกของค่าเสียหายทั้งหมด ตามความสมัครใจของลูกค้า เพื่อให้ได้ส่วนลดค่าเบี้ยประกัน เหมาะสำหรับลูกค้าที่มั่นใจว่าขับรถอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาท การขอรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกไว้เองนี้ จะรับผิดชอบเฉพาะความเสียหายอันเกิดจากความประมาทของผู้ใช้รถ

2. ค่าเสียหายส่วนแรกเมื่อมีการเคลมที่เข้าเงื่อนไข (Excess)

เป็นค่าเสียหายที่ผู้ใช้รถหรือผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ต้องรับผิดชอบร่วมกับบริษัทฯ เป็นจำนวนตามที่ระบุไว้ในสัญญากรมธรรม์ เช่น รถเสียหายไม่ทราบคู่กรณี หรือ ผู้ขับขี่ไม่ตรงตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์(กรณีฝ่ายผิด)

ค่าซ่อมรถประกัน (กรณีสำรองจ่าย)
1. ใบเคลม
2. บันทึกตกลงราคาค่าซ่อม (คุมราคาก่อนซ่อม)
3. ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี
4. สำเนาทะเบียนรถ
5. นำรถมาตรวจสภาพ บางกรณีใช้รูปถ่ายแสดง 3 ขั้นตอน (ก่อนซ่อม – ระหว่างซ่อม – หลังซ่อม)
6. สำเนาหน้าสมุดธนาคาร
7. สำเนาบัตรประชาชน

ค่าเสียหายของรถคู่กรณี หรือค่าเสียหายของทรัพย์สิน
1. ใบเคลม
2. ใบเสนอราคาค่าซ่อมรถหรือทรัพย์สินที่เสียหาย
3. สำเนาทะเบียนรถหรือเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่เสียหาย
4. สำเนาหน้าสมุดธนาคาร
5. สำเนาบัตรประชาชน
6. หนังสือมอบอำนาจ กรณีเจ้าของทรัพย์สินไม่สามารถดำเนินการด้วยตัวเอง

กรณีบาดเจ็บ
1. สำเนากรมธรรม์ประกันภัย (กรณีที่เป็นผู้เอาประกัน)
2. ใบเคลม (ถ้ามี)
3. บันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจ (ถ้ามี)
4. ใบเสร็จรับเงิน (ต้นฉบับ)
5. ใบรับรองแพทย์
6. บันทึกการเรียกร้องสินไหมทดแทน
7. สำเนาบัตรประชาชน
8. สำเนาหน้าสมุดธนาคาร
9. หนังสือมอบอำนาจ กรณีไม่สามารถดำเนินการด้วยตัวเอง

กรณีเสียชีวิต
1. สำเนากรมธรรม์ประกันภัย (กรณีที่เป็นผู้เอาประกัน)
2. ใบเคลม (ถ้ามี)
3. บันทึกประจำวันจากสถานีตำรวจ (ถ้ามี)
4. สำเนาใบมรณบัตร
5. สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้เสียชีวิต
6. ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลก่อนเสียชีวิต (ถ้ามี)
7. ข้อมูลของผู้เสียชีวิต เช่น อาชีพ รายได้ ฯลฯ
8. เอกสารแสดงความเป็นทายาทของผู้เสียชีวิต เช่น คำสั่งแต่งตั้งของศาล ใบมอบอำนาจจากผู้เสียหายรายอื่น ๆ
9. สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้เสียหาย
10. หนังสือมอบอำนาจ กรณีผู้เสียหายไม่สามารถดำเนินการด้วยตัวเอง

1. หากคุณยอมรับผิด สามารถนำรถเข้าข้างทาง เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร

2. หากรถยนต์เสียหายไม่มาก และได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่บริษัทประกัน ท่านสามารถใช้เอกสาร ชนแล้วแยกได้ หรือรอเจ้าหน้าที่ประกันมาถึง แต่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ประกัน

เอาประกันสามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้ โดยทำหนังสือแจ้งความประสงค์ถึงบริษัทรับประกันที่ทำไว้ และกำหนดวันที่ที่ต้องการให้มีผลการยกเลิกได้ เอกสารที่ใช้
1. ส่งคืนกรมธรรม์ประกันภัยฉบับจริง (หากสูญหาย ให้แจ้งความ)
2. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการให้โอนค่าเวนคืนกรมธรรม์
3. ผู้เอาประกันเขียนระบุความประสงค์ยกเลิกและวันที่ต้องการยกเลิกกรมธรรม์ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน