7 ขั้นตอน การแจ้งเคลมประกันรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
โดย Admin SaveDee | 29 พฤศจิกายน 2567
ขั้นตอนการเคลมประกันภัยรถยนต์กรณีเกิดอุบัติเหตุ
1. แจ้งเหตุการณ์ให้บริษัทประกันทราบทันที
- เวลาแจ้ง: หากเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหาย ต้องแจ้งบริษัทประกันภัยทันที ภายในระยะเวลาที่กำหนด (มักจะอยู่ที่ 24-48 ชั่วโมง) เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรือการปฏิเสธการเคลม
- ข้อมูลที่ต้องแจ้ง: ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับอุบัติเหตุ เช่น
- วันและเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ
- สถานที่เกิดเหตุ
- ชื่อและข้อมูลของคู่กรณี (หากมี)
- เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
บางบริษัทอาจมีแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่สามารถแจ้งเหตุได้ทันที
2. เก็บหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
การเก็บหลักฐานที่เกิดขึ้นในที่เกิดเหตุเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะจะช่วยสนับสนุนการเคลมของคุณในภายหลัง
- รูปถ่าย: ถ่ายรูปที่เกิดเหตุ รวมถึงรถที่ได้รับความเสียหายจากทุกมุม และอาจถ่ายรูปคู่กรณี หรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง (เช่น บัตรประชาชนหรือใบขับขี่)
- รายงานจากตำรวจ: หากมีการเกิดอุบัติเหตุใหญ่หรือมีคู่กรณี ควรแจ้งตำรวจและขอรายงานการเกิดเหตุจากตำรวจ ซึ่งรายงานนี้จะช่วยยืนยันเหตุการณ์ในกรณีที่จำเป็น
- ใบรับรองการเจ็บป่วย: หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ควรมีใบรับรองการรักษาจากโรงพยาบาลหรือใบเสร็จจากการรักษา
3. ติดต่อศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมที่ได้รับการรับรองจากบริษัทประกัน
หลังจากแจ้งเหตุการณ์ให้บริษัทประกันทราบแล้ว บริษัทจะจัดส่งเจ้าหน้าที่หรือแนะนำให้คุณนำรถไปที่ศูนย์บริการ หรืออู่ซ่อมที่ได้รับการรับรอง
- ตรวจสอบความเสียหาย: เจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันจะไปตรวจสอบรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายและความเสียหาย
- ทำเอกสารการเคลม: เตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น แบบฟอร์มเคลม, หลักฐานต่างๆ ที่เก็บรวบรวมจากการเกิดเหตุ
4. กรอกแบบฟอร์มการเคลมประกัน
บริษัทประกันจะมีแบบฟอร์มสำหรับการเคลมซึ่งต้องกรอกข้อมูลดังนี้:
- ข้อมูลส่วนตัวของผู้เอาประกัน
- ข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุ (วัน เวลา สถานที่ และรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์)
- รายการค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
เคล็ดลับ: ควรกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลทุกอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาหรือความล่าช้าในการเคลม
5. การตรวจสอบจากบริษัทประกัน
เมื่อบริษัทประกันได้รับเอกสารการเคลมจากคุณแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบข้อมูลและเอกสารทั้งหมด รวมทั้งการประเมินความเสียหาย
- การตรวจสอบ: เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่าอุบัติเหตุหรือความเสียหายนั้นอยู่ภายใต้ขอบเขตการคุ้มครองของกรมธรรม์หรือไม่
- การประเมินค่าใช้จ่าย: บริษัทประกันจะประเมินค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการซ่อมแซม หรือค่าเสียหายที่เกี่ยวข้อง
6. การอนุมัติการเคลมและชำระค่าสินไหม
เมื่อทุกขั้นตอนเสร็จสมบูรณ์ บริษัทประกันจะอนุมัติการเคลมและทำการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามที่ตกลงกันไว้
- การจ่ายสินไหม: การจ่ายสินไหมอาจเป็นการจ่ายเงินให้กับผู้เอาประกัน (หากมีการจ่ายเงินค่าสินไหม) หรือการจ่ายให้กับอู่ซ่อมหรือศูนย์บริการที่ทำการซ่อมแซม
- ค่าเสียหายส่วนแรก (Excess): ในบางกรมธรรม์ ผู้เอาประกันอาจต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (ซึ่งจะเป็นจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเองก่อนที่บริษัทประกันจะจ่ายส่วนที่เหลือ)
7. รับการซ่อมแซมและส่งมอบรถ
เมื่อค่าสินไหมได้รับการอนุมัติและการซ่อมแซมเสร็จสิ้น รถยนต์ของคุณจะถูกส่งคืนพร้อมทั้งซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้น
- ตรวจสอบการซ่อม: ก่อนรับรถคืน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าการซ่อมแซมเสร็จสมบูรณ์และความเสียหายทั้งหมดได้รับการแก้ไขตามที่ตกลง
- การประเมินคุณภาพ: หากพบข้อผิดพลาดหรือการซ่อมแซมไม่ครบถ้วน สามารถแจ้งให้บริษัทประกันหรืออู่ซ่อมดำเนินการแก้ไข
ข้อควรระวังในการเคลมประกันภัย
- ตรวจสอบกรมธรรม์: อ่านเงื่อนไขในกรมธรรม์ให้ละเอียด เพราะบางครั้งจะมีข้อยกเว้นหรือข้อจำกัดที่อาจทำให้การเคลมไม่สามารถทำได้
- ระมัดระวังการกล่าวหาผู้ประสบอุบัติเหตุ: หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความเสียหายหรือเหตุการณ์ ควรให้เจ้าหน้าที่ประกันภัยช่วยตรวจสอบให้แทน
- รักษาหลักฐาน: เก็บหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเคลมไว้อย่างเป็นระเบียบ เช่น เอกสารจากตำรวจ ใบเสร็จรับเงิน และรูปถ่ายสถานที่เกิดเหตุ