วิธีขับรถลุยน้ำท่วม และการดูแลหลังขับรถลุยน้ำ

โดย Admin SaveDee | 7 มกราคม 2566

ช่วงนี้เป็นหน้าฝน หลายท่านอาจเผชิญปัญหาต้องขับรถลุยน้ำท่วม เราจึงอยากแนะนำวิธีการขับรถลุยน้ำท่วม และการดูแลหลังจากขับรถลุยน้ำท่วมให้กับทุกท่าน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณและรถที่คุณรัก

1. ก่อนถึงจุดน้ำท่วมต้องลดความเร็วลง เพราะหากขับรถมีความเร็วผ่านบริเวณน้ำขัง รถจะเบาและอาจเสียการทรงตัวได้อันตราย จะคุมรถไม่อยู่ โดยอย่าให้ความเร็วมากกว่า 60-80 กม. ต่อ ชม.

2. แล้วจะรู้ได้ไงว่าระดับน้ำขนาดไหนที่จะขับผ่านได้? ถ้าเป็นรถเก๋งก็ดูประมาณไม่เกิน 30 ซ.ม.(ฟุตนึงพอดี) ก็ประมาณครึ่งล้อ หากยังขืนลุยต่อโอกาสเครื่องดับก็มี

3. ถ้าจำเป็นต้องลุยกันจริง ๆ สำหรับรถเก๋ง อันดับแรกให้ปิดระบบเครื่องปรับอากาศในรถ พร้อมเปิดกระจกระบายอากาศ ?ที่ให้ปิดระบบแอร์เพราะใบพัดอาจพัดน้ำเข้าเครื่องได้ หรือเข้าระบบไฟฟ้าได้

4. ขณะขับลุยน้ำให้ใช้เกียร์ต่ำ คือเกียร์ 1-2 ? และรักษาอัตราเร่งไว้ให้ได้ประมาณ 1500-2000 รอบ ต่ำกว่านี้เครื่องอาจดับ สูงกว่านี้อาจจะดูดอากาศและน้ำเข้าเครื่องได้อีก

5. ขณะขับลุยน้ำให้รักษาระยะห่างคันหน้าให้มาก เพราะระบบเบรกของท่านแช่น้ำอยู่ประสิทธิภาพต่ำลงเยอะ และถ้าพ้นน้ำแล้วก็ให้ขับช้า ๆ และเบรกเป็นช่วง ๆ เพื่อให้ผ้าเบรกแห้ง ถ้าดิสเบรคจะแห้งเร็ว แต่ถ้าดรัมเบรคจะแห้งช้ากว่า ระวังข้อนี้ให้ดีนะครับ

6. และสุดท้าย หากเครื่องดับกลางน้ำให้หาคนช่วยย้ายรถไปตำแหน่งที่น้ำไม่ท่วม และอย่าสตาร์ทรถ เพราะยิ่งสตาร์ท น้ำจะยิ่งเข้าระบบเครื่องยนต์

และฝากสำหรับรถที่อาจเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วม หากรู้ตัวให้รีบถอดขั้วแบตเตอรี่รถยนต์ออกขั้วใดขั้วหนึ่ง หรือทั้งสองขั้ว ให้ระบบไฟฟ้าไม่ทำงาน จะผ่อนหนักให้เป็นเบา และหากถูกน้ำท่วมทั้งคัน ก็ให้เปลี่ยนของเหลวในรถยนต์ใหม่ทั้งหมด เช่น น้ำมันเครื่อง,น้ำบันเบรค,น้ำมันเกียร์ เป็นต้น

 

แต่ทางที่ดีรถไม่ควรขับลุยน้ำเพราะเครื่องยนต์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ไม่ถูกกับน้ำนะครับ ถ้าใครที่รถถูกน้ำท่วม แล้วมีประกันรถยนต์ก็สามารถเคลมได้นะ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในแต่ละกรมธรรม์)

 

[ ที่มา : website แอกซ่าประกันภัย ]

 

 

เซฟดี ประกันออนไลน์

เจอที่อื่นถูกกว่า คืนเงิน 100%

เช็คราคาประกันฟรี 30 วินาที ราคาดี ทุนประกันสูง
เช็กก่อนจ่าย คุ้มค่า คุ้มราคา

บทความที่น่าสนใจ

บทความทั้งหมด